Friday, July 25, 2014

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กับการลงทุนสังหาริมทรัพย์ การเมืองส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ และความมั่งคั่งของประชาชน โดยเฉพาะความเชื่อมั่น ในด้านการท่องเที่ยว เช่นเดียวกันการเมืองก็มีผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว ถ้าการเมืองโปร่งใสอสังหาริมทรัพย์ก็จะเติบโต T 25 มาดูกรณีศึกษา แม้ว่าในระยะยาวอสังหาริมทรัพย์มีแต่เพิ่มราคาขึ้นเรื่อยๆ ดูคล้ายกับว่าการเมืองไม่มีผลแต่อย่างใด แต่ในประเทศที่มีปัญหาทางการเมืองการเพิ่มขึ้นก็คงช้ากว่าประเทศที่ไม่มีปัญหา การเปิดการค้าเสรีจะส่งผลให้มีการลงทุนข้ามชาติมากยิ่งขึ้นนับว่าเป็นปัจจัยบวกของแต่ละประเทศ กรุงเทพมหานคร สามารถดึงดูดนักลงทุนมากขึ้นและมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนและอยู่อาศัยของชาวต่างชาติ สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และให้ความคุ้มครองในการลงทุน และเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอสังหาฯ ในแนวดิ่ง (ส่วนใหญ่จะเป็น คอนโด, ห้องชุด) ทั้งในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล จะเห็นได้ว่า มีโครงการใหม่ๆ เปิดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหนึ่งก็มาจากส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร T25 คือ ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่า อสังหาริมทรัพย์ไทย บจ.เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่าในด้านทำเล ที่ตั้งกรุงเทพมหานครสามารถเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี เสริมด้วยโครงการเชื่อมท่าเรือน้ำลึกทะวาย โครงการรถไฟความเร็วสูงจากจีน ในอนาคตจะสามารถแข่งขันกับสิงคโปร์ได้ หากมีการจัดพื้นที่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายมาตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย โดยให้เช่าที่ดินระยะยาว พร้อมด้วยการสร้างสาธารณูปโภคต่างๆในเขตศูนย์กลางธุรกิจใหม่ใจกลางเมืองที่สามารถ ดำเนินการได้โดยใช้พื้นที่ของหน่วยราชการที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ใจกลางกรุงเหล่านี้จะเป็นการสร้างงานและสร้างเสริมศักยภาพของประเทศไทย คาดว่าเมื่อไทยเข้าสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งจะส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจเชื่อมโยงการลงทุน ตามความพร้อมและศักยภาพของแต่ละประเทศได้สะดวกจะมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการการลงทุน เงินทุน และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี การลงทุนจากประเทศนอกกลุ่มอาเซียนจะมาประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากภูมิศาสตร์ของไทยอยู่ตรงกลางภูมิภาค และประเทศไทยจะเป็นเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โครงการอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับกรุงจาการ์ตา กรุงพนมเปญ กรุงมะนิลา และนครโฮจิ-มินห์ นอกจากนั้น ในพื้นที่ตากอากาศเช่น พัทยา สมุย ภูเก็ตและหัวหิน ก็มีนักลงทุนชาวต่างชาติสนใจมาลงทุนเช่นกัน ฉะนั้นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยจะต้องสามารถสร้างโอกาสจากการเกิดขึ้นของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนี้ แต่โอกาสที่จะเห็นได้ชัดเจนคือการที่จะมีชาวอาเซียนเข้ามาพักอาศัยในประเทศไทยมากขึ้น ทั้งจากการเข้ามาทำธุรกิจ ลงทุน การเคลื่อนย้ายแรงงาน T25 ราคาและหากหลังจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ธนาคารพาณิชย์ของไทยกับรัฐบาลไทยเอื้อให้ชาวต่างชาติเข้ามากู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้านได้ ก็จะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในกลุ่มลูกค้าอาเซียนมีโอกาสในการเติบโตขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นประการสำคัญอันดับแรกๆ ที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจคือศึกษาถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นชาวต่างชาติ การเรียนรู้เศรษฐกิจวัฒนธรรม วิถีชีวิต และค่านิยม ความคิดของประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งในเรื่องของทำเล การทำตลาด การกำหนดราคา เพื่อเตรียมความพร้อม T25

No comments:

Post a Comment